การปฏิบัติตามกฎระเบียบ
แนวทางปฏิบัติและประกาศทางกฎหมายของ Schunk Group
จรรยาบรรณธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์
ความเข้าใจของเราเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านการบริหารจัดการซัพพลายเออร์
Schunk Group มองว่า “ความยั่งยืน” เป็นองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการทางธุรกิจขององค์กร ในกิจกรรมการจัดซื้อจัดจ้างของเรา เราไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่เกณฑ์ด้านกระบวนการ เศรษฐกิจ และเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านสังคมและนิเวศวิทยา เช่น สิทธิมนุษยชน สภาพการทำงานที่เป็นธรรม การแข่งขันที่เป็นธรรม การป้องกันการทุจริต ตลอดจนการคุ้มครองสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุในระดับสูง เราดำเนินการจัดซื้อวัตถุดิบ สินค้า และบริการจากซัพพลายเออร์ทั่วโลก เพื่อส่งมอบโซลูชันผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรม ตอบสนองความสำเร็จอย่างยั่งยืนของลูกค้า พื้นฐานของกระบวนการนี้คือปรัชญาองค์กรที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งมุ่งเน้นไปยังการสร้างคุณค่าในระยะยาว ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงให้ซัพพลายเออร์มีส่วนร่วมโดยตรงในกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของเรา
ในขอบเขตที่เกิดความขัดแย้งระหว่างผลิตภัณฑ์/ประสิทธิภาพ ตลาด ภูมิภาค และกระบวนการ คุณภาพ ความน่าเชื่อถือ ต้นทุน นวัตกรรม ความซื่อสัตย์ และความยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกซัพพลายเออร์ของเรา ดังนั้น Schunk Group จะเลือกเฉพาะซัพพลายเออร์ที่ดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นมืออาชีพและความซื่อสัตย์ มีค่านิยมด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับเรา และให้การยอมรับรวมถึงสนับสนุนมาตรฐานด้านคุณภาพและวัฒนธรรมด้านสุขภาพและความปลอดภัยของเราเท่านั้น
ดังนั้น เราจึงคาดหวังให้ซัพพลายเออร์ของเราปฏิบัติตามแนวทางต่อไปนี้:
- ดำเนินธุรกิจโดยสอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ นโยบาย และหลักปฏิบัติสำหรับอุตสาหกรรมที่บังคับใช้ทั้งหมดอย่างครบถ้วน
- ยึดมั่นในหลักจริยธรรมอย่างเคร่งครัดในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิของพนักงานและสิทธิมนุษยชน การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม การคุ้มครองสุขภาพ และความปลอดภัยในการทำงาน
- การบูรณาการ การประยุกต์ใช้ และการแบ่งปันหลักการเหล่านี้กับซัพพลายเออร์และผู้รับเหมาช่วงของตนเอง
- การตระหนักถึงความสำคัญของความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง ผ่านการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และนโยบายว่าด้วยโอกาสเท่าเทียมกันและการไม่เลือกปฏิบัติทั้งหมดอย่างเคร่งครัด
- การดูแลให้ไม่มีการละเมิดกฎหมายหรือการเลือกปฏิบัติในสถานที่ทำงานในทุกรูปแบบ
- การปฏิสัมพันธ์กับความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความเชื่อ และประเด็นต่าง ๆ อย่างมีสติและให้ความเคารพ
จรรยาบรรณธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์ฉบับนี้กำหนดข้อกำหนดขั้นต่ำในประเด็นด้านความยั่งยืน และกำหนดหลักการสำคัญที่ Schunk Group คาดหวังให้พันธมิตรทางธุรกิจและซัพพลายเออร์ทุกฝ่ายถือปฏิบัติตาม Schunk Group ขอสงวนสิทธิในการระงับหรือยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับซัพพลายเออร์รายใดก็ตามที่ไม่ปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้หรือกฎหมายที่บังคับใช้ได้ทุกเมื่อ
1. การเคารพสิทธิมนุษยชน/การไม่เลือกปฏิบัติ
พนักงานของ Schunk Group รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจและซัพพลายเออร์ทุกราย มีสิทธิได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม สุภาพ และให้เกียรติ ห้ามมิให้มีการล่วงละเมิดหรือเลือกปฏิบัติต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งบนพื้นฐานของชาติพันธุ์ สีผิว สัญชาติ เชื้อสาย เพศภาวะ อัตลักษณ์ทางเพศ ความเชื่อหรือการสังกัดศาสนา อุดมการณ์ มุมมองทางการเมือง อายุ สภาพร่างกาย รูปลักษณ์ หรือลักษณะส่วนบุคคลอื่นใดทั้งสิ้น
Schunk คาดหวังให้ซัพพลายเออร์ส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมและการปฏิบัติที่เท่าเทียม และป้องกันไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการว่าจ้างพนักงาน ตลอดจนการเลื่อนตำแหน่ง หรือการมอบการฝึกอบรมและการศึกษาต่อ
ห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติต่อพนักงานของซัพพลายเออร์รายใดรายหนึ่งบนพื้นฐานของเพศภาวะ อายุ สีผิว วัฒนธรรม เชื้อชาติ สัญชาติ อัตลักษณ์ทางเพศ เพศ ความพิการ การสังกัดศาสนา มุมมองทางการเมือง หรืออุดมการณ์
2. แรงงานเด็ก
Schunk Group ปฏิเสธการใช้แรงงานเด็กในทุกรูปแบบ รวมถึงในบรรดาพันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า ซัพพลายเออร์และผู้รับช่วงงานของซัพพลายเออร์ คำจำกัดความของ “แรงงานเด็ก” ให้เป็นไปตามหลักการของ ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact)
ดังนั้น Schunk จึงคาดหวังให้ซัพพลายเออร์ของตนไม่ยอมรับและงดเว้นการใช้แรงงานเด็กทุกรูปแบบในบริษัทของตนและตลอดห่วงโซ่อุปทาน
3. แรงงานบังคับ/ทาสยุคใหม่
การเป็นทาสในทุกรูปแบบขัดต่อรากฐานทางจริยธรรมของเรา เราคาดหวังให้ซัพพลายเออร์และผู้รับช่วงงานของซัพพลายเออร์ ต่อต้านและขจัดทาสยุคใหม่และการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน โดยไม่ยอมรับหรือประนีประนอมในทุกกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องมีการเคารพ ส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่นอย่างทั่วถึงตลอดห่วงโซ่อุปทาน
4. สิทธิของพนักงาน/สภาพการทำงาน
Schunk ยึดมั่นในหลักการของความรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญกับสภาพการทำงานที่เป็นธรรมในทุกประเทศที่ Schunk Group ดำเนินธุรกิจ Schunk ถือว่าการปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นทั้งหมดเกี่ยวกับค่าจ้างขั้นต่ำ สวัสดิการสังคม ค่าล่วงเวลา เวลาทำงานและเวลาพัก และสภาพการทำงาน เป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว
ดังนั้น Schunk จึงคาดหวังให้ซัพพลายเออร์ปฏิบัติตามสิทธิของพนักงานทั้งหมดตามกฎหมายระดับชาติที่บังคับใช้ ตลอดจนสภาพการทำงานที่เป็นธรรมทั่วโลก
Schunk จะไม่ว่าจ้างหรือใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยทั้งจากภาคเอกชนหรือภาครัฐ หากมีการใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยสำหรับกรณีต่อไปนี้:
ก) การละเลยข้อห้ามเกี่ยวกับการทรมานหรือการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ข) ชีวิตหรืออวัยวะได้รับบาดเจ็บ หรือ
ค) การก่อให้เกิดอุปสรรคต่อเสรีภาพในการสมาคมและการจัดตั้งองค์กร
5. เสรีภาพในการสมาคม
ซัพพลายเออร์ยอมรับสิทธิของพนักงานทุกคนในการจัดตั้งและเข้าร่วมสหภาพแรงงานและองค์กรตัวแทนพนักงาน ในกรณีที่กฎหมายท้องถิ่นจำกัดสิทธิดังกล่าว ควรส่งเสริมให้มีรูปแบบอื่นในการเป็นตัวแทนของพนักงาน ที่เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
6. ค่าตอบแทน/ชั่วโมงการทำงาน
ซัพพลายเออร์ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่พนักงานตรงเวลา และสอดคล้องตามกฎหมายค่าจ้างที่บังคับใช้ ซึ่งรวมถึงค่าจ้างขั้นต่ำ ค่าล่วงเวลา การห้ามทำงานล่วงเวลามากเกินไป และสวัสดิการภาคบังคับ
7. การคุ้มครองสุขภาพ/ความปลอดภัยในการทำงาน/การป้องกันอัคคีภัย
ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ถือเป็นหลักการพื้นฐานสำหรับ Schunk กระบวนการ สิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์สำหรับการปฏิบัติงาน ตลอดจนสถานที่ทำงานทั้งหมด ต้องเป็นไปตามข้อผูกพันทางกฎหมายที่บังคับใช้สำหรับความปลอดภัยในการทำงาน การคุ้มครองสุขภาพ และการป้องกันอัคคีภัย
ดังนั้น Schunk จึงคาดหวังให้ซัพพลายเออร์ของตนทราบและปฏิบัติตามกฎหมายระดับชาติที่บังคับใช้ด้านการคุ้มครองสุขภาพ ความปลอดภัยในการทำงาน และการป้องกันอัคคีภัยอย่างเคร่งครัด เรากำหนดให้ซัพพลายเออร์ต้องมีองค์กรด้านความปลอดภัยในการทำงานที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงตัวอย่างเช่น การควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการทำงานที่เกิดขึ้นจริงและที่อาจเกิดขึ้น เป็นต้น โดยใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสม และการมอบหมายพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและได้รับการฝึกอบรมเพียงพอให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น
Schunk ยินดีหากซัพพลายเออร์มีระบบบริหารจัดการความปลอดภัยในการทำงานที่ได้รับการรับรอง และถือเป็นปัจจัยเชิงบวกในการพิจารณาคัดเลือกซัพพลายเออร์
8. การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนประกอบสำคัญของนโยบายองค์กรของ Schunk และด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นข้อกำหนดที่ซัพพลายเออร์ทุกรายต้องปฏิบัติตามอย่างจริงจัง
Schunk คาดหวังให้ซัพพลายเออร์ของตนทราบและปฏิบัติตามกฎหมายระดับชาติที่บังคับใช้ด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางราชการ และกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในประเทศปลายทางด้วย
เรากำหนดให้ซัพพลายเออร์ต้องมีองค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม และรับรองการปกป้องสินค้าที่ได้รับการคุ้มครองดังต่อไปนี้:
- การปกป้องมนุษย์ สัตว์ และพืช โดยป้องกันการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและ/หรือสุขภาพ และหลีกเลี่ยงการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและ/หรือสุขภาพ
- การปกป้องบรรยากาศ โดยป้องกันมลพิษทางอากาศจากก๊าซที่เป็นอันตรายและ/หรือก๊าซเรือนกระจก และโดยการดูแลรักษาคุณภาพของอากาศ
- การปกป้องดิน โดยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของดินที่เป็นอันตราย และจำกัดการใช้ที่ดิน
- การปกป้องน้ำ โดยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของน้ำที่เป็นอันตรายอย่างยั่งยืน บำบัดน้ำเสียทั้งหมด และใช้ทรัพยากรน้ำอย่างประหยัด
- การปกป้องทรัพยากรธรรมชาติทั้งหมดโดย
- การป้องกันการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากเกินไป
- ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
- ลดการเกิดของเสียอันตรายและของเสียที่ต้องนำไปกำจัด
- กำจัดขยะอย่างถูกวิธีและไม่เป็นอันตราย
- ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบหมุนเวียน
- และพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงวงจรชีวิต
สำหรับ Schunk แล้ว การที่ซัพพลายเออร์รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วและมีสาเหตุมาจากการดำเนินธุรกิจของตนเอง และเข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูความเสียหายหรือบรรเทาผลกระทบจากความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุด ถือเป็นเรื่องปกติพื้นฐาน
Schunk ยินดีหากซัพพลายเออร์มีระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการรับรอง และถือเป็นปัจจัยเชิงบวกในการพิจารณาคัดเลือกซัพพลายเออร์
9. การดำเนินธุรกิจในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ/การแข่งขันอย่างเป็นธรรม
ซัพพลายเออร์ต้องดำเนินธุรกิจภายใต้การแข่งขันที่เป็นธรรมและเข้มงวด และต้องปฏิบัติตามกฎหมายการแข่งขันที่บังคับใช้ ซัพพลายเออร์ต้องยึดมั่นในแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่เป็นธรรม รวมถึงการโฆษณาที่ถูกต้องและตรงกับข้อเท็จจริง
10. การทุจริตและการติดสินบน
การติดสินบน การทุจริต การกรรโชกทรัพย์ การฟอกเงิน และการยักยอกทรัพย์ทุกรูปแบบเป็นสิ่งต้องห้าม ซัพพลายเออร์ต้องไม่ให้สิทธิประโยชน์ เสนอ จ่าย หรือรับสินบน ข้อห้ามนี้ครอบคลุมถึงสิ่งจูงใจที่ผิดกฎหมาย (เช่น สินบน) ตลอดจนการใช้อิทธิพลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือกับหน่วยงานรัฐบาล นอกจากนี้ ยังห้ามมิให้ใช้ตัวกลาง (เช่น ผู้รับเหมาช่วง ผู้ค้าส่ง ตัวแทน ที่ปรึกษา) เพื่อดำเนินการหรือสนับสนุนกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวอีกด้วย
ดังนั้น ซัพพลายเออร์จึงต้องจัดให้มีระบบป้องกันการฉ้อโกงและระบบรายงานการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งรายงานต่อ Schunk เกี่ยวกับเหตุการณ์การฉ้อโกงทั้งหมด (ไม่ว่าจะได้รับการยืนยันแล้วหรืออยู่ระหว่างการสืบสวน) ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Schunk
11. คำเชิญ/ของขวัญ
ซัพพลายเออร์ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Schunk อยู่แล้ว หรือกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าว จะต้องไม่เสนอของขวัญ ค่าตอบแทนพิเศษ ความบันเทิง มื้ออาหาร หรือกิจกรรมความบันเทิงที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของพนักงานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Schunk
12. การใช้ชื่อ/แบรนด์/โลโก้ของ Schunk
ห้ามมิให้ซัพพลายเออร์ใช้ชื่อ เครื่องหมายการค้า/แบรนด์ หรือข้อมูลที่คล้ายกันอื่นใดของ Schunk ในการโฆษณา การเผยแพร่ผ่านสื่อ หรือการแนะนำผลิตภัณฑ์โดยซัพพลายเออร์ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจาก Schunk
13. การหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน
ซัพพลายเออร์ควรหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์ใด ๆ กับพนักงานของ Schunk ที่อาจก่อให้เกิดหรือปรากฏให้เห็นถึงผลประโยชน์ทับซ้อนกับ Schunk ตัวอย่างเช่น ซัพพลายเออร์ต้องไม่ว่าจ้างพนักงานของ Schunk หรือทำการชำระเงินให้แก่พนักงานเหล่านั้นในลักษณะอื่นใด โดยไม่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจาก Schunk
14. การฟอกเงิน
Schunk คาดหวังว่าซัพพลายเออร์จะปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อป้องกันการฟอกเงินและไม่มีส่วนร่วมในกิจกรรมการฟอกเงิน
15. ทรัพย์สินทางปัญญา/การลอกเลียนผลงาน
ซัพพลายเออร์ต้องเคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมด การถ่ายโอนเทคโนโลยีและองค์ความรู้จะต้องดำเนินการในลักษณะที่รับรองว่าสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของเจ้าของที่เกี่ยวข้องแต่ละรายการได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม
ด้วยเหตุนี้ การใช้วัสดุลอกเลียนหรือปลอมจึงเป็นสิ่งต้องห้าม Schunk Group ไม่อนุญาตให้มีการใช้ การแปรรูปต่อ หรือการทำการตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ปลอม นอกจากนี้ หากตรวจพบว่าสินค้าใดเป็นของปลอม ซัพพลายเออร์จะต้องไม่นำออกสู่ตลาด แต่จะต้องรายงานต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
16. ความซื่อสัตย์ของห่วงโซ่อุปทาน/กฎหมายว่าด้วยห่วงโซ่อุปทาน (LkSG)
ซัพพลายเออร์มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามพันธกรณีการตรวจสอบสถานะสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้านในลักษณะที่เหมาะสมภายในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องของตน
ข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Act) ต้องได้รับการปฏิบัติตามภายในขอบเขตการบังคับใช้ในแต่ละท้องถิ่น
17. การควบคุมการส่งออก/นำเข้า
ซัพพลายเออร์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการนำเข้าและส่งออกที่บังคับใช้ทั้งหมดของประเทศที่ซัพพลายเออร์ตั้งอยู่ ตลอดจนของประเทศที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า ส่งออก ส่งออกซ้ำ ถ่ายโอน หรือเปิดเผย
ซึ่งรวมถึงธุรกรรมทุกประเภทสำหรับสินค้า ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยี หรือความช่วยเหลือทางเทคนิค ที่อาจอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางการค้า โดยไม่คำนึงถึงรูปแบบการถ่ายโอน ซัพพลายเออร์จะต้องให้ความร่วมมือกับ Schunk ในการตรวจสอบข้อจำกัดด้านการควบคุมการส่งออกที่บังคับใช้ นอกจากนี้ ซัพพลายเออร์ยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายการค้าและศุลกากรอื่น ๆ ที่มีผลบังคับใช้อย่างครบถ้วนอีกด้วย
18. ความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูล
ซัพพลายเออร์ต้องปฏิบัติตามและเคารพกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายความเป็นส่วนตัวทั้งหมด ซัพพลายเออร์ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น ข้อมูลของพนักงานหรือพันธมิตรทางธุรกิจของ Schunk Group) เฉพาะตามข้อกำหนดทางกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลเท่านั้น
ซัพพลายเออร์ต้องปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้รับจากหรือประมวลผลในนามของ Schunk ให้ปลอดภัย และต้องป้องกันจากการสูญหาย การใช้ในทางที่ผิด การโจรกรรม การฉ้อโกง ตลอดจนการเข้าถึง การเปิดเผย หรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างแข็งขัน และต้องรายงานการละเมิดหรือช่องโหว่ด้านความมั่นคงปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที ซัพพลายเออร์ควรนำระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศที่เหมาะสมมาใช้
19. วัสดุที่มีความขัดแย้ง
ซัพพลายเออร์ต้องทำให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่จัดส่งให้กับ Schunk ปราศจากโลหะที่สกัดมาจากแร่หรืออนุพันธ์ของแร่ที่มีต้นกำเนิดมาจากพื้นที่ขัดแย้ง ซึ่งมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงโดยกลุ่มติดอาวุธ และให้การเกื้อหนุนทางการเงินหรือการสนับสนุนทั้งทางตรงหรือทางอ้อมแก่กลุ่มติดอาวุธ นอกจากนี้ ซัพพลายเออร์ยังต้องปฏิบัติตามแนวทางของ EU Regulation 2017/821 และกฎหมาย Dodd-Frank Wall Street Reform and Consumer Protection Act อย่างเคร่งครัดอีกด้วย
20. การปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์/การควบคุม
เพื่อให้มั่นใจว่าซัพพลายเออร์ได้ปฏิบัติตามหลักการและข้อกำหนดในจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์ของ Schunk อย่างเหมาะสม ทางเราขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบดังกล่าว ไม่ว่าจะดำเนินการด้วยตนเอง ผ่านบุคคลภายนอก หรือผ่านการประเมินตนเองของซัพพลายเออร์ก็ตาม
นอกจากนี้ Schunk ยังคาดหวังให้ซัพพลายเออร์นำมาตรฐานเหล่านี้ไปปฏิบัติในรูปแบบที่เหมาะสมด้วย
รวมถึงการอนุญาตให้ Schunk หรือบุคคลภายนอกที่ได้รับมอบหมายจาก Schunk หรือลูกค้าสามารถเข้าดำเนินการตรวจสอบ ณ สถานประกอบการได้ โดยเป็นไปตามการประสานงานกับซัพพลายเออร์
Schunk จะได้รับผลการตรวจสอบเหล่านี้ด้วย และจะส่งผลโดยตรงต่อการประเมินผลและการอนุมัติสถานะของซัพพลายเออร์ การละเมิดหลักการและข้อกำหนดที่ระบุไว้ในจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์ของ Schunk จะถือเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์ทางสัญญาอย่างมีนัยสำคัญจากฝ่ายซัพพลายเออร์ ในกรณีที่มีข้อสงสัยว่าซัพพลายเออร์ไม่ปฏิบัติตามหลักการและข้อกำหนดที่อธิบายไว้ในจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์ของ Schunk ทาง Schunk ขอสงวนสิทธิ์ในการขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องจากซัพพลายเออร์
นอกจากนี้ Schunk ยังมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเป็นรายฉบับหรือทั้งหมดกับซัพพลายเออร์ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าซัพพลายเออร์ไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์ฉบับนี้ หรือไม่มีความมุ่งมั่นและไม่ดำเนินการตามมาตรการปรับปรุงที่กำหนดอีกด้วย
ซัพพลายเออร์ทุกรายของ Schunk Group สามารถเข้าถึงจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์ฉบับนี้ได้ตลอดเวลาผ่านหน้าเว็บไซต์หลักของ Schunk Group
ซัพพลายเออร์แต่ละรายต้องแจ้งให้พนักงานของตนทราบถึงจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในจรรยาบรรณธุรกิจให้พนักงานเข้าใจอย่างชัดเจน ซัพพลายเออร์ทุกรายของ Schunk พึงตรวจสอบการดำเนินงานของตนเองตามมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่ระบุไว้ข้างต้น และดำเนินการปรับปรุงตามความเหมาะสมหากจำเป็น
การละเมิดจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์ฉบับนี้จะไม่ได้รับการยอมรับ และอาจนำไปสู่โทษทางแพ่งหรือทางอาญา
21. ระบบการแจ้งเบาะแส
หากพนักงานของซัพพลายเออร์มีเหตุอันควรสงสัยว่าพนักงานของ Schunk หรือบุคคลใดก็ตามที่กระทำการในนามของ Schunk ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหรือไม่ได้รับอนุญาตในทางอื่น พนักงานเหล่านั้นต้องรายงานเรื่องนี้ให้ Schunk ทราบทันที
Schunk Group ได้จัดตั้งระบบการแจ้งเบาะแสขึ้น โดยแต่งตั้งทนายความภายนอกเป็นผู้ตรวจการ (ทนายความที่ได้รับความไว้วางใจ) ซึ่งซัพพลายเออร์สามารถใช้ระบบดังกล่าวได้เช่นกัน
ผู้ตรวจการรายนี้พร้อมให้บริการแก่ซัพพลายเออร์ทุกรายที่ประสงค์จะแจ้งข้อมูลอย่างเป็นความลับเกี่ยวกับข้อสงสัยในการกระทำความผิดทางอาญาหรือความผิดปกติร้ายแรงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับ Schunk Group ทั้งนี้สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เนื่องจากทนายความมีหน้าที่ในการรักษาความลับ ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลระบุตัวตนของผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับการคุ้มครองอย่างน่าเชื่อถือ และไม่เปิดเผยให้ Schunk Group ทราบ
รายละเอียดการติดต่อของผู้ตรวจการของ Schunk (ทนายความที่ได้รับความไว้วางใจ):
- ที่อยู่: Dr. Rainer Buchert, Buchert Jacob Partner Partnerschaftsgesellschaft mbB
- Kaiserstrasse 22, 60311 Frankfurt am Main/Germany
- โทรศัพท์: +49 69 710 333 30
- อีเมล: kanzlei@dr-buchert.de
นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งข้อมูลผ่านแบบฟอร์มติดต่อบนเว็บไซต์ของ Buchert Jacob Partner ได้ที่: www.ombudsperson-frankfurt.de/de
Heuchelheim, 1 เมษายน 2023
Schunk GmbH