การปฏิบัติตามกฎระเบียบ

แนวทางปฏิบัติและประกาศทางกฎหมายของ Schunk Group



จรรยาบรรณธุรกิจ

หลักการที่เป็นแนวทางของ Schunk Group

Schunk เป็นกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ดำเนินธุรกิจทั่วโลก ความเชี่ยวชาญของเราในด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมเครื่องกล
ช่วยส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ Schunk ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นการเติบโตที่ให้ผลกำไร
ตลอดจนความเป็นอิสระและวิสัยทัศน์ระยะยาว เรามีจุดเด่นในเรื่องความหลากหลายและความเคารพซึ่งกันและกัน:
เราประสบความสำเร็จในฐานะทีม

 

บทนำ
¬ จรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้กำหนดหลักพฤติกรรมพื้นฐานที่เป็นแนวทางการดำเนินงานของ
ฝ่ายบริหารและพนักงานทุกคนของ Schunk Group ในการทำธุรกิจประจำวันของเราในฐานะบริษัท
¬ ความไว้วางใจจากพันธมิตรทางธุรกิจของเรา ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ซัพพลายเออร์ ผู้เยี่ยมชม หน่วยงานภาครัฐ
และสาธารณชน ถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับ Schunk Group นั่นจึงเป็นเหตุผลที่
สำนึกความรับผิดชอบ การปฏิบัติตามกฎหมาย และการยึดมั่นในหลักศีลธรรมต้องปรากฏอยู่ในทุกการดำเนินงานของ Schunk


ก. ขอบเขตการมีผลบังคับใช้
¬ นอกเหนือและเป็นอิสระจากแนวทางปฏิบัตินี้ กิจกรรมทางธุรกิจของ Schunk Group และ
การประพฤติปฏิบัติของพนักงานทุกคนยังคงต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับของท้องถิ่นที่บังคับใช้ด้วย
¬ ในกรณีที่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ข้อปฏิบัติเพิ่มเติมไว้ในแนวทางเฉพาะของแต่ละบริษัท หน่วยงานในองค์กร
หรือกลุ่มบุคคล (เช่น มาตรฐานขององค์กร) แนวทางเหล่านั้นให้ถือว่ามีผลบังคับใช้
ควบคู่กับจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้โดยไม่มีข้อจำกัด


ข. การปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
1. การปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้

¬ การปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้และระเบียบข้อบังคับทั้งหมดเป็นรากฐานสำคัญของทุกการดำเนินงานของ Schunk Group
¬ พนักงานและองค์กรธุรกิจทุกระดับใน Schunk Group มีหน้าที่ศึกษา
กฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับขอบเขตความรับผิดชอบของตนภายในบริษัท
และหากมีข้อสงสัย ต้องปรึกษาหน่วยงานที่รับผิดชอบภายใน Schunk Group
¬ Schunk ปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฎหมายในการป้องกันการฟอกเงิน และจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมฟอกเงินใด ๆ พนักงานทุกคนมีหน้าที่ต้องรายงานธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติต่อฝ่ายการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสด ซึ่งอาจก่อให้เกิดข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
¬ Schunk จะไม่ให้ผลประโยชน์ทางการเงินหรือสิทธิพิเศษใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริจาคหรือการเป็นผู้สนับสนุน
แก่พรรคการเมือง องค์กรในเครือหรือองค์กรที่คล้ายคลึงกัน เจ้าหน้าที่รัฐเป็นรายบุคคล หรือผู้สมัครรับเลือกตั้งทางการเมือง


2. การแข่งขันอย่างเป็นธรรม
¬ กฎเกณฑ์ในการปกป้องการแข่งขันอย่างเป็นธรรมถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี กฎเหล่านี้
ครอบคลุมโดยเฉพาะในเรื่องต่อไปนี้:

  • การห้ามมิให้ทำข้อตกลงระหว่างคู่แข่งในเรื่องราคา เงื่อนไข การแบ่งเขตพื้นที่ กลุ่มลูกค้า หรือปริมาณการผลิต

  • การห้ามมิให้ควบคุมราคาขายหรือกำหนดราคาคงที่ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรด้านการขายของเรา

  • การห้ามมิให้ใช้อำนาจเหนือตลาดในทางที่ผิด และ

  • การควบคุมการควบรวมกิจการของบริษัท

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการมีอำนาจเหนือตลาด
¬ การส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรมสอดคล้องกับนโยบายทางธุรกิจของ Schunk Group ด้วยเหตุนี้
Schunk จึงปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันการผูกขาดที่บังคับใช้ทั้งหมดอย่างเคร่งครัด
¬ ห้ามทำข้อตกลงระหว่างผู้เข้าร่วมตลาดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดการแข่งขัน
โดยเด็ดขาด
¬ แม้แต่การพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ การทำความเข้าใจร่วมกัน หรือการกระทําในลักษณะที่เป็นการร่วมมือกัน
ที่แสดงถึงข้อตกลงหรือความตั้งใจในการดำเนินมาตรการที่จำกัดการแข่งขันก็ถือเป็นสิ่งต้องห้ามเช่นกัน
¬ ข้อมูลที่เป็นความลับเกี่ยวกับราคา และ/หรือการเปลี่ยนแปลงราคาที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือความสัมพันธ์กับลูกค้า/ซัพพลายเออร์
ต้องไม่ถูกเปิดเผยระหว่างการพูดคุยสนทนากับคู่แข่ง


3. การทุจริต/การให้และการรับผลประโยชน์และสิทธิพิเศษ
¬ พนักงานทุกคนของ Schunk ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางภายในขอบเขตความรับผิดชอบของตน
ในการป้องกันการทุจริต การทุจริตหมายถึงการเสนอ การให้ หรือการรับของขวัญ เงินกู้ยืม ค่านายหน้า รางวัล
หรือผลประโยชน์หรือสิทธิพิเศษอื่นใดแก่หรือจากบุคคลหรือองค์กร เพื่อจูงใจให้กระทำการบางอย่าง
ที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ผิดกฎหมาย หรือเป็นการละเมิดความไว้วางใจ
¬ ต้องไม่มีการร้องขอ ยอมรับ เสนอ หรือมอบผลประโยชน์หรือสิทธิพิเศษส่วนบุคคลใด ๆ ก็ตามเพื่อแลกเปลี่ยนกับ
การได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษในระหว่างการเตรียมการ การให้สัญญา หรือการปฏิบัติตามสัญญา
¬ โดยหลักการแล้ว ไม่อนุญาตให้มีการแจกจ่ายหรือรับของขวัญ ยกเว้นเฉพาะของที่ระลึกตามธรรมเนียม
หรือของขวัญส่งเสริมการขาย หรือของขวัญที่สอดคล้องกับจารีตประเพณีและมารยาทอันเหมาะสม
ของแต่ละประเทศ และไม่ขัดต่อบทบังคับแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
¬ การให้หรือรับผลิตภัณฑ์หรือทรัพย์สินอื่น ๆ เพื่อใช้งานแบบยืมโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาก็อาจถือ
เป็นของขวัญหรือการรับหรือให้ผลประโยชน์หรือสิทธิพิเศษที่ต้องห้ามเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถ
ทำได้เช่นกัน


4. การค้าระหว่างประเทศ
¬ Schunk เป็นบริษัทระดับโลก และในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจทั่วโลก บริษัทมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
และระเบียบข้อบังคับที่จำกัดการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างเสรี
¬ ด้วยเหตุนี้ บริษัทในเครือทุกแห่งของ Schunk Group จึงปฏิบัติตามข้อห้ามในการนำเข้าและ/หรือส่งออก การควบคุมการส่งออก มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ข้อจำกัดทางการค้า และการสงวนสิทธิ์ในการอนุมัติจากภาครัฐ ซึ่งบังคับใช้ตามกฎหมายระดับชาติหรือระหว่างประเทศ
¬ กฎหมายระดับชาติหรือระหว่างประเทศหลายฉบับและข้อจำกัดทางการค้าจะจำกัดหรือห้ามการนำเข้าหรือส่งออก
หรือการค้าขายภายในประเทศ สำหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ รวมถึงการให้บริการ
สนับสนุนด้านเทคนิค การเป็นตัวกลาง และการโอนย้ายเงินทุนและธุรกรรมทางการเงิน
ที่เกี่ยวข้องกับบางประเทศ บางบุคคล และ/หรือบางองค์กร ข้อจำกัดและข้อห้ามเหล่านี้
อาจขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของสินค้าที่เป็นปัญหา วัตถุประสงค์ในการใช้งาน
ประเทศต้นทางหรือประเทศปลายทาง หรือบุคคลที่เป็นคู่สัญญาในการทำธุรกรรม
¬ ระเบียบข้อบังคับควบคุมการส่งออกในระดับชาติหรือระหว่างประเทศมีความสำคัญอย่างยิ่ง
¬ พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับควบคุมเหล่านี้เมื่อดำเนินการ
ซื้อ เป็นนายหน้าซื้อขาย ผลิต แจกจ่ายสินค้าหรือบริการ หรือการถ่ายโอนหรือรับเทคโนโลยี
¬ จำเป็นต้องมีการตรวจสอบล่วงหน้าว่าการดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับ
การอนุมัติจากภาครัฐหรือไม่ บริษัทในเครือทุกแห่งของ Schunk Group ต้องจัดให้มีมาตรการภายในองค์กรที่จำเป็น
และแต่งตั้งผู้รับผิดชอบเพื่อให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อบังคับข้างต้นอย่างเคร่งครัด


ค. การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
¬ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการสังกัดบริษัท องค์กรธุรกิจและพนักงานทุกระดับใน Schunk Group
ต้องหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน (ไม่ว่าจะโดยทางตรง
หรือทางอ้อม ผ่านบุคคลหรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง) กับผลประโยชน์ของ Schunk Group
¬ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน พนักงานต้องแจ้งเจตนาที่จะ

  • รับตำแหน่งหรือบทบาทในกิจการอื่น

  • เริ่มงานรองหรือกิจกรรมอื่นที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม หรือ

  • เริ่มดำเนินกิจการส่วนตัว

ให้หัวหน้างานที่เกี่ยวข้องหรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่รับผิดชอบทราบ และต้องได้รับอนุมัติจาก
บุคคลหรือหน่วยงานดังกล่าวก่อนดำเนินการ


ง. การเคารพสิทธิมนุษยชน การห้ามการเลือกปฏิบัติ
1. สภาพการทำงานที่เป็นธรรม
¬ Schunk ให้คำมั่นว่าจะยึดมั่นในหลักการความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเคร่งครัด ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงให้ความสำคัญกับ
การส่งเสริมสภาพการทำงานที่เป็นธรรมที่สามารถนำไปใช้ได้ทั่วทั้ง Schunk Group ทั่วโลก
¬ Schunk ต้องปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ สวัสดิการสังคม ค่าล่วงเวลา
ชั่วโมงการทำงาน และสภาพการทำงาน
¬ ข้อกำหนดเรื่องสภาพการทำงานที่เป็นธรรมรวมถึงการไม่ยอมรับการใช้แรงงานบังคับ
ทาสยุคใหม่ หรือการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ และห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติต่อพนักงานไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องมีการเคารพ ส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น อย่างทั่วถึงตลอดห่วงโซ่อุปทาน
¬ Schunk Group เห็นว่า การปฏิบัติต่อพนักงานด้วยความเคารพในทุกภูมิภาคทั่วโลกเป็นเรื่องที่ต้องกระทำโดยไม่ต้องตั้งคำถาม
ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและมาตรฐานด้านแรงงาน การจ้างงาน และสิทธิมนุษยชน
ที่ใช้บังคับในแต่ละประเทศ
¬ Schunk Group ตระหนักถึงเสรีภาพของพนักงานในการสมาคมและการชุมนุม และสิทธิ
ในการเข้าร่วมสหภาพแรงงานหรือสมาคมของพนักงาน
¬ Schunk จะไม่จ้างหรือใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยทั้งจากภาคเอกชนหรือภาครัฐ หากการใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้
ก) การละเลยข้อห้ามเกี่ยวกับการทรมานหรือการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ข) การบาดเจ็บต่อชีวิตหรืออวัยวะ หรือ
ค) การก่อให้เกิดอุปสรรคต่อเสรีภาพในการสมาคมและการจัดตั้งองค์กร
¬ นอกจากนี้ Schunk Group ยังคาดหวังให้พนักงานทุกคนปฏิบัติต่อกัน รวมถึงต่อลูกค้า
และซัพพลายเออร์ด้วยความเคารพ ต้องเคารพในความเป็นส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน เราจะไม่ยอมรับ
การคุกคามในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคุกคามทางเพศและการกลั่นแกล้ง


2. แรงงานเด็ก
Schunk Group ปฏิเสธการใช้แรงงานเด็กในทุกรูปแบบ รวมถึงในบรรดาพันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า และ
ซัพพลายเออร์ Schunk Group จะเคารพระเบียบข้อบังคับท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ
สำหรับเรื่องอายุขั้นต่ำของผู้ได้รับการจ้างงาน
3. การห้ามการเลือกปฏิบัติ
¬ พนักงานทุกคนของ Schunk Group รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจทุกฝ่าย มีสิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม สุภาพ และให้เกียรติ
จากกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร พนักงานรายอื่น และเพื่อนร่วมงาน
¬ Schunk Group ไม่ยอมรับการคุกคามหรือการเลือกปฏิบัติทั้งหลายที่มุ่งเป้าไปยังบุคคลบนพื้นฐานของเชื้อชาติ
สีผิว สัญชาติ เชื้อสาย เพศหรือเพศภาวะ อัตลักษณ์ทางเพศหรือเพศวิถี ความเชื่อหรือการสังกัดศาสนา
มุมมองทางโลก มุมมองทางการเมือง อายุ สภาพร่างกาย รูปลักษณ์ หรือ
ลักษณะส่วนบุคคลใด ๆ ทั้งสิ้น


จ. ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
1. ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

¬ ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของเราเป็นหลักการพื้นฐานที่เราให้ความสำคัญ
¬ กระบวนการ สถานที่ผลิตและสำนักงาน และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงานทั้งหมด ต้องสอดคล้องกับ
กฎหมายที่บังคับใช้ ตลอดจนกฏเกณฑ์และระเบียบข้อบังคับภายในเกี่ยวกับความปลอดภัยและอาชีวอนามัย รวมถึง
การป้องกันอัคคีภัยและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
¬ เราคาดหวังให้พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง และแสดงออกถึงความตระหนักถึงความเสี่ยง
รวมถึงแสดงความคิดริเริ่มในทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย สิ่งนี้ครอบคลุมถึงความเสี่ยงหรืออันตรายใด ๆ ทั้งหมด
ที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงานของ Schunk หรือในสถานที่ของลูกค้าหรือซัพพลายเออร์ รวมถึงระหว่าง
การใช้งานผลิตภัณฑ์ของเรา
¬ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริง หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเหตุการณ์เฉียดอันตราย ต้องรายงานต่อ
ผู้จัดการที่รับผิดชอบทันที ผู้จัดการทุกคนมีหน้าที่ในการปกป้องพนักงานของตน และต้องให้คำแนะนำ
ฝึกอบรม และกำกับดูแลอย่างเหมาะสม
¬ Schunk Group ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดหาสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และเหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์
ตลอดจนการจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสมให้แก่พนักงานทุกคน
¬ เรามุ่งมั่นที่จะทำการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย โดยอาศัย
ทั้งประสบการณ์ของเราเองและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยที่ทันสมัยอยู่เสมอ


2. การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
¬ Schunk ให้คำมั่นว่าจะคุ้มครองสิ่งแวดล้อมซึ่งถือเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของบริษัท
และได้มีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าการผลิตผลิตภัณฑ์โดยใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นคือเป้าหมายสำคัญ
¬ ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมคือการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการเคารพข้อห้ามเกี่ยวกับการขับไล่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และข้อห้ามเกี่ยวกับการลิดรอนสิทธิในที่ดิน ป่าไม้ หรือแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งยังชีพของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในกระบวนการได้มา ก่อสร้าง หรือใช้ประโยชน์จากที่ดิน ป่าไม้ และแหล่งน้ำดังกล่าว
¬ หลักการที่เป็นแนวทางดังต่อไปนี้ใช้บังคับกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนทางนิเวศวิทยา และการธำรงรักษา
ฐานทรัพยากรธรรมชาติซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต:

  • เราปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเรา ใช้ทรัพยากรธรรมชาติทุกชนิดอย่างประหยัด และลดผลกระทบจากกิจกรรมของเราต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด

  • เราพิจารณาประเด็นด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาและออกแบบ การผลิต การบรรจุภัณฑ์ การขนส่งผลิตภัณฑ์ของเรา ตลอดจนในการปรับปรุงขั้นตอนปฏิบัติและการนำสิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ใหม่มาใช้งาน

¬ หากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตามที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภายในบริษัททราบทันทีโดยละเอียด และหน่วยงานนั้นต้องดำเนินการแจ้งต่อ
หน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด
¬ พนักงานทุกคนมีหน้าที่ในการป้องกันความเสี่ยงต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด
และใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด
¬ เรามุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการและมองไปข้างหน้า ตลอดจน
การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน ผลการดำเนินงาน
ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและพลังงาน และประสิทธิภาพด้านพลังงาน


ฉ. การคุ้มครองข้อมูล ข้อมูลที่เป็นความลับ การลอกเลียนผลงาน และทรัพย์สินทางปัญญา
1. การปกป้องความลับทางธุรกิจและการค้า

¬ สิ่งประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ และองค์ความรู้ของเราคือปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาวของบริษัท
¬ ดังนั้น การส่งเสริมความเชี่ยวชาญด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของพนักงานจึงมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์
เช่นเดียวกับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของเราให้พ้นจากการรับรู้หรือการเข้าถึง
โดยบุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต
¬ ด้วยเหตุนี้ พนักงานทุกคนจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมและจำเป็น
ทั้งในการติดต่อด้วยตนเองและในการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์กับบุคคลภายนอก ข้อกำหนดเดียวกันนี้ยังใช้กับ
ข้อมูลที่เป็นความลับที่บุคคลภายนอกเปิดเผยให้เราทราบหรือทำให้เข้าถึงได้ด้วย
¬ พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตามแนวทางด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่กำหนดโดยฝ่ายไอทีส่วนกลางของ Schunk อย่างเคร่งครัด
¬ พนักงานไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการอภิปรายในที่ชุมชน (เช่น
งานนำเสนอ ฟอรัมบนอินเทอร์เน็ต เป็นต้น) หรือเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทต่อสาธารณะ (เช่น บน
อินเทอร์เน็ต เป็นต้น) โดยไม่ได้รับอนุมัติ ในฐานะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ Schunk


2. การจัดการทรัพย์สินของบริษัท
¬ พนักงานมีหน้าที่ต้องดูแลรักษาอุปกรณ์ของบริษัท เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ ตลอดจนระบบข้อมูล
และการสื่อสาร ด้วยความเอาใจใส่ และใช้สิ่งเหล่านี้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เท่านั้น
¬ ห้ามนำทรัพย์สินของบริษัทไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัวหรือเคลื่อนย้ายออกจากสถานที่ของบริษัท
โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในบริษัท


3. ภาระผูกพันในการรักษาความลับ
¬ ความรู้และข้อมูลที่สั่งสมภายใน Schunk Group ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริม
ความสำเร็จทางธุรกิจของเรา Schunk Group ลงทุนทรัพยากรทั้งด้านบุคลากรและการเงินอย่างมากในการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีนวัตกรรม การปกป้องนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเหล่านี้ถือเป็นการรักษา
ความสำเร็จในฐานะคู่แข่งของ Schunk Group ดังนั้น จึงนับเป็นทรัพย์สิน
ที่ควรได้รับการปกป้องคุ้มครองเป็นพิเศษ
¬ พนักงานและองค์กรธุรกิจทุกระดับใน Schunk Group จึงมีภาระผูกพันในการป้องกันไม่ให้
ความรู้และข้อมูลที่ถือเป็นความลับทางธุรกิจหรือการค้ารั่วไหลออกไปภายนอก
Schunk Group ไม่ว่าจะโดยการเผยแพร่ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวกับบุคคลภายนอกผ่านการพูดคุย
การเขียนบทความในวารสารการค้า หรือบนอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น
¬ นอกจากนี้ พนักงานทุกคนที่เกี่ยวข้องกับความรู้และข้อมูลประเภทนี้จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า
ความรู้และข้อมูลดังกล่าวสามารถยื่นขอสิทธิในทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมได้หรือไม่
และในระดับใดบ้าง
¬ ความลับทางธุรกิจและการค้าของพันธมิตรทางธุรกิจของ Schunk Group ก็ต้องได้รับการปกป้อง
ไม่ให้มีการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน


4. การลอกเลียนผลงาน
¬ Schunk Group ไม่อนุญาตให้มีการใช้ การแปรรูปต่อ หรือการทำการตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ปลอม หากตรวจพบผลิตภัณฑ์ปลอมภายในบริษัท (เป็นกรณีที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้) แม้จะมีการดำเนินมาตรการประกันคุณภาพอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะถูกแยกออกทันที นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ใดก็ตามที่ Schunk ตรวจพบว่าเป็นการลอกเลียนผลงานจะไม่ถูกนำไปเผยแพร่ และบริษัทจะดำเนินการแจ้งต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่รับผิดชอบต่อไป


5. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
¬ การเคารพในความเป็นปัจเจกบุคคลและความเป็นส่วนตัวของพนักงานใน Schunk Group ครอบคลุมถึงการคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานด้วย
¬ Schunk Group ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่บังคับใช้เกี่ยวกับ
การคุ้มครองข้อมูลและความเป็นส่วนตัว และกำหนดให้พนักงาน ลูกค้า และซัพพลายเออร์ต้องปฏิบัติตามเช่นเดียวกัน

 

ช. การปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจและการติดตามกำกับดูแล
¬ บริษัทและหน่วยงานทุกแห่งในเครือ Schunk Group ต้องรับผิดชอบโดยตรงในการปฏิบัติตาม
กฎเกณฑ์ที่ระบุไว้ในจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้ ตลอดจนกฎเกณฑ์และระเบียบข้อบังคับอื่น ๆ
ที่กำหนดไว้ภายในขอบเขตความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน
¬ พนักงานทุกคนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ทั้งหมดของ Schunk Group สามารถเข้าถึงจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้ได้
ตลอดเวลาบนอินทราเน็ตและบนเว็บไซต์ของ Schunk Group
¬ ผู้จัดการทุกคนมีหน้าที่แจ้งให้พนักงานของตนทราบเกี่ยวกับจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้
และอธิบายเนื้อหาของเอกสารให้พนักงานเข้าใจ พนักงานทุกคนของ Schunk มีหน้าที่ทบทวนและพิจารณาพฤติกรรมของตนเอง
โดยอ้างอิงตามมาตรฐานและการดำเนินการที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ และดำเนิน
การแก้ไขหากมีความจำเป็น
¬ ผู้จัดการมีภาระหน้าที่พิเศษในการเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติงาน แสดงออกถึงความซื่อสัตย์อย่างเป็นรูปธรรมในการดำเนินธุรกิจประจำวัน
และชี้แจงเนื้อหาของจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้ให้พนักงานภายใต้ความรับผิดชอบของตน
รับทราบอย่างทั่วถึง
¬ การละเมิดจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้จะไม่ได้รับการยอมรับ และอาจส่งผลให้ต้องรับโทษตามกฎหมายแพ่ง
หรืออาญา รวมถึงมาตรการทางวินัยที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของพนักงาน
¬ หากพนักงานได้รับข้อเสนอหรือคำร้องขอเกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตัวหรือสิทธิพิเศษใด ๆ พนักงานจะต้อง
รายงานเรื่องดังกล่าวต่อฝ่ายงานเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องหรือฝ่ายบริหารระดับสูง
¬ โดยทั่วไป พนักงานทุกคนมีหน้าที่ขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากผู้จัดการของตน ฝ่ายงานเฉพาะทางที่เหมาะสม
หรือฝ่ายบริหารระดับสูง หากมีข้อสงสัยทางกฎหมายเกี่ยวกับพฤติกรรมของตนเอง
หรือหากพบเบาะแสที่บ่งชี้ถึงเรื่องที่น่าสงสัยในสภาพแวดล้อมการทำงานของตน

 

ซ. ระบบแจ้งเบาะแสและช่องทางติดต่อในกรณีการประพฤติมิชอบ
1. ช่องทางการรายงานภายใน

¬ บุคคลใดก็ตามที่ทราบถึงการละเมิดจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้สามารถแจ้งต่อผู้จัดการที่เกี่ยวข้อง
หัวหน้าแผนกบุคคล ฝ่ายทรัพยากรบุคคลระดับโลก หรือหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบภายในของ
Schunk Group ได้ ข้อมูลที่รายงานจะได้รับการเก็บรักษาเป็นความลับอย่างเข้มงวด


2. ช่องทางการรายงานภายนอก: ผู้ตรวจการของ Schunk Group
¬ Schunk Group ได้จัดตั้งระบบแจ้งเบาะแสภายนอกโดยการแต่งตั้งทนายความภายนอก
เป็นผู้ตรวจการ (ทนายความที่ได้รับความไว้วางใจ)
¬ พนักงานหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกอื่น ๆ สามารถติดต่อผู้ตรวจการได้ตลอดเวลาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เพื่อรายงานกิจกรรมอันควรสงสัยเกี่ยวกับการกระทำความผิดทางอาญา
หรือการกระทำผิดร้ายแรงที่คล้ายคลึงกันซึ่งเกี่ยวข้องกับ Schunk Group ในลักษณะที่เป็นความลับ
¬ ด้วยหลักสิทธิพิเศษระหว่างทนายความและลูกความ จึงมั่นใจได้ว่าอัตลักษณ์ของผู้แจ้งเบาะแสจะ
ได้รับการคุ้มครองและไม่เปิดเผยให้ Schunk Group ทราบ


¬ รายละเอียดการติดต่อของผู้ตรวจการของ Schunk:

  • ที่อยู่: Dr. Rainer Buchert, Buchert Jacob Partner Partnerschaftsgesellschaft mbB
  • Kaiserstraße 22, 60311 Frankfurt am Main/ Germany
  • โทรศัพท์: +49 69 710 333 30
  • อีเมล: kanzlei@dr-buchert.de
     

คุณสามารถใช้แบบฟอร์มติดต่อบนเว็บไซต์ของ Buchert Jacob Partner เพื่อส่งรายงานได้:
www.ombudsperson-frankfurt.de/en

Heuchelheim, 1 เมษายน 2023

Schunk GmbH